บทความ

เกือบจะหมดปี

รูปภาพ
 แรกๆก็ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเอง จะอายุ 30 ผ่านไปครึ่งปีกว่าๆมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเยอะมาก เมษายนไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อน มีความสุขมาก จนวันเกิด ผ่านไป มีใครคนนึงเข้ามาในชีวิต เดือน 6 ได้เจอกันครั้งแรก และ เสียน้ำตา ผ่านไป ครึ่งปี ยังทำงานที่เดิม รักษาตัวเอง เข้าๆออกๆโรงพยาบาล ลุ้นๆตรวจ ATK ทุกวันอาทิตย์ และ ชีวิตก็ผ่านพ้นไป ที่ทำงานก็มีคนลาออก และ มีคนเข้ามาใหม่ จนได้ไปทะเลอีกครั้ง มันฮีลใจได้มาก ขอบคุณเพื่อนๆที่ยังอยู่เคียงข้างกันเสมอมา อีก 3 เดือนจะสิ้นปีแล้ว ขอให้เวลามันผ่านไปได้ด้วยดี  ครบรอบ Blog นี้ 8 ปีพอดี

หมดปี

รูปภาพ
ชีวิตปี 2021 ผ่านพ้นไปอีก 1 ปี ผ่านไปกับการเป็นผู้ใหญ้ฝึกหัดในวัย 29 ปี ปีหน้า 30 คงจะได้เป็นเต็มตัว ปีนี้ การงานยังโอเคอยู่ (พอสมควร) อยู่ในวิกฤตวัยกลางคน ยังมองอนาคตตัวเองยังไม่ออกเท่าไหร่ ปัญหาโควิด ยังกระทบอยู่ อยู่ในช่วงจิตตก และ กักตัวไปครั้งนึง สุดท้ายเราคือผู้รอดชีวิต พร้อมกับการต้อนรับ ซีซั่นใหม่ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ปีนี้ได้เจอกับคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ คนที่อยากจะเจอก็ไม่ได้เจอสักที ติดปัญหาเงื่อนไขของเวลาทำให้พลาดไม่ได้เจอกันสักที ขอบคุณเพื่อนที่ยัง อยู่ด้วยกันเสมอ ปีนี้มีความสุขกับการอยู่คนเดียว ไปไหนใหนคนเดียว ตื่นสายในวันหยุด ไปดูหนังคนเดียวก็ไม่ได้แย่ ไปกินปิ้งย่างคนเดียวก็ไม่ได้แย่เสมอไป ติดอยู่ในสถานะ situationship มาในระยะหนึ่ง จนสุดท้ายก็จบกันไป มีโอกาสก็ออกไปเที่ยวบ้าง ก็มีความสุขดี ขอบคุณ หลายสิ่งหลายอ่างที่ผ่านเข้ามา จริงๆอยากเขียนมากกว่านี้ แต่เมาไวน์ ปวดหัวมาก เอาเป็นว่า Happy New Year 2022

แด่ความหวัง ...

รูปภาพ
ว่าไปแล้ว ณ ตอนที่กำลังนั่งพิมพ์อยู่นี้ ก็ผ่านมา เดือน ตุลาคมแล้ว อีก 2 เดือน ก็จะหมดปี 2021  ปีนี้เหนื่อยพอตัว กับโรคระบาด ซึ่งตัวเองก็เฉียดมาแล้ว ดีที่ยังไม่ติดโรค  มันกลัว มันกังวลไปหมด การเข้าทำงาน ของเราด็ไกล้จะครบ ปีที่ 2 แล้วหล่ะ  อายุ ณ ตอนนี้ก็ 29 ปี อีก 6 เดือน ก็จะ 30 แล้ว เป้าหมายที่เคยตั้งเป้าไว้ ก็คือการออกไปเที่ยว ต่างประเทศ ก่อน 30 ก็ พังทลายลง ณ ตอนนี้ โรคระบาดมันก็ยังอยู่  และ เราก็ดันไปก่อ หนี้ไปอีก ก็เพราะ ของมันอยากได้ เนอะ  แต่ก็ พอเข้าใจตัวเองอยู่ มันไม่เกินกำลังของตัวเอง  ที่ผ่านมา ก็เริ่มชินกับความเป็นโสด  การออก ไปเดินห้างคนเดียว ดูหนังคนเดียว  แม้แต่การกิน บุฟเฟ่ต คนเดียวก็ทำให้ตัวเองมีความสุขได้ แ ม้มุมมอง เราว่ามันเป็นอะไรที่โคตรจะเหงาเลย เราก็พยายามทำใจให้ชิน การมีเพื่อนบนดลกออนไลน์ก็ดี เพิ่งไปเจอน้องคนนึงที่เล่นเกม GTA ด้วยกันเมื่อ แบบ 5-6 ปีก่อนมา ทำให้รู้ว่า เวลาผ่านไปเร็ว คนเราโตเร็ว พัฒนาเร็วมาก จากเด็กน้อย ตอนนี้เขากลายเป็นพ่อคน น้องอีกคนก็กำลังจะแต่งงาน โหห นี่แหละ ชีวิต ส่วนเรายังทำงานต่อ ไป ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อ ตัวเราเอง เราเคยงันอยากออกเดินทางไป

ชีวิตมุนษย์เงินเดือนผ่านไป 5 เดือน ครึ่ง

รูปภาพ
หลังจากเวิ่นเว้อมาตั้งแต่เดือน เมษาปีที่แล้วจนมาได้งานในเดือนธันวาปีที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ล่วงเลยเวลามา 5 เดือนแล้วจากเด็กทดลองงานก็เป็นพนักงานเต็มตัว ผ่านงานรับปริญญาในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ จนเกิดโควิด 19 ระบาดหนัก เราก็ยังอยู่รอดปลอดภัย หลายคนได้ผลกระทบ ครอบครัวเราก็เช่นกัน ธุรกิจของพ่อเป็นธุรกิจการท่องเที่ยวรายได้ 0 มาหลายเดือน เรากับน้องกลับกลายเป็นคนที่มีรายได้ซะอย่างงั้น เลยได้ช่วยจ่ายค่าใช้ได้ต่างๆเพื่อแบ่งเบาภาระที่บ้าน จากงานที่อยากจะลาออก ก็กลับกลายเป็นต้องอยู่กับมัน จากกลับบ้าน 17.30 กลายเป็น 19.00 บ้าง 19.30 บ้าง ซะอย่างงั้น ไม่มีค่าล่วงเวลา ยังไงก็ต้องทำ เงงินเดือนก็เท่าเดิม ก็ทนๆทำไป มองกลับไปก็ยังดีกว่าตอนไม่มีงานทำ จนดีขึ้น บางครั้งก็ท้อ และให้กำลังตัวเองจนเกิดพลังด้านลบในตัวเองซะอย่างงั้น เวลาวันหยุกก็รู้สึกว่าผ่านไปอย่างนวดเร็วมาก เมื่อไหร่เราจะแข็งแกร่งกว่านี้นะ ตอนนี้ท้อ แต่ไม่อยากถอย แต่นี่ก็ต้องทำเพื่อเป้าหมายของตัวเอง จะต้องพาคนที่บ้านไปเที่ยวให้ได้ ขอให้ตัวเองอย่าเพิ่งท้อ ก้พอนะ

งานที่ผ่านไป 1 เดือน

รูปภาพ
ในที่สุดก็ได้งาน ผมดีใจมาก และลแล้วมันผ่านไป 1 เดือนพอดี 1 เดิอนแล้วได้อะไร อย่า่งแรกเลยถ้าถามว่าโอเคกับงานไหม ผมก็บอกว่าโอเคนะ บางครั้งมันก็รู้สึกๆเหงาๆอยู่ แม้มีคนมากมาย ผมไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงาน เป็นยังไง มันเหมือนเพื่อนเรา เพื่อนสมัยเรียนไหม เหมือนบางครั้งมันเป้นแบบ ตัวใคร ตัวมัน บางครั้งมันเหมือนช่วยเหลือกัน แต่เพราะผลประโยชน์เรื่องงาน ลึกๆมันก็เคว้ง หรือผมยังไม่สนิทกับใคร และคนในแผนก็ไม่มีใครอายุเท่าผมเลยการมีเพื่อนอาจจะยากไปหน่อย สักวันมันก็คงต้องมี เพื่อนอาจจะไม่มี มีแต่เจ้านายกับลูกน้อง พี่กับน้อง พี่ที่คอยสั่งงานน้อง ผมพยายามที่จะเรียนรู้ให้ได้เร็วๆ เพราะบางครั้งวันหยุดผม ก็จะทำงานคนเดียวกับพี่อีกคน ผมรู้สึกเหมือนแบกอะไรไว้ บางสิ่ง บางอย่างผมยังไม่รู้อย่างแท้จริงก็ต้องถาม ถามมากก็กลัวเขาจะรำคาน จนบางครั้ง ผมคิดว่าพอหมดสัญยาจ้าง 3 เดือนผมจะลาออก แต่ผมลาออกไปแล้ว มันไม่มีโอกาสแล้วนะ โอกาสแบบนี้หายากมาก แต่ตอนทำงาน โอกาสจากที่อื่นๆก็มาหาผมเช่นกันแต่ผม ปฏิเสธไปแล้ว ผมอยากจะออกนะ แต่มันไม่ได้ออกง่ายๆ ออกไปแล้วไ่ม่ใช่ว่า จะมีโอกาสอีก ผมไม่รู็ว่าที่ทำอยู

2562 การเริ่มต้นใหม่ในช่วงของสิ้นปี

รูปภาพ
คงไม่มีใครสายเกินกว่าที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ หลังจากเคว้งไปเกือบจะทั้งปี ไปสัมภาษณ์งานมาแล้วไม่ได้ และท้อใจ และบอกกับตัวเองว่าเก็บไปเป็นประสบการณ์ ให้ก้าวต่อไป สิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้ถึงตัวเองในปี 2562 นี้ ก็คือการหลุดจากวังวนของตัวเอง ที่รู้สึกไม่มีค่าอะไรเลย อยู่หน้าคอมไปวันๆ ใช้ชีวิตอยู่แต่แบบนี้ นั่นก็คือการมีงานทำ เราได้งานทำแล้ว อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ หลังจากเรียนจบ เราตั้งคำถาม กับตัวเองว่า เรียนจบแล้วไงต่ออะ สุดท้ายมันกลับไปสู่จุดเดิม การเดินทางเมื่อปี 61 ครั้งนั้น มันผลักดันให้เราต้องเดินต่อ ในที่สุดเดือนธันวาคม ปี 62 เราก็ได้งานทำ แม้ในการทำงานวันแรกจะโดน เรียกสัมภาษณ์ ตั้ง 2 ที่ แต่เราแน่วแน่และเลือกที่ทำงานแล้ว ในการทำงานก็ดีมาก แต่ติดตรงที่การเดินทาง และ เงินเดือนที่เราหามาได้ครั้งแรกในชีวิต ก็ทำให้เรามีความสุข ไม่ใช่สุขที่ว่าได้ใช้เงิน แต่อย่างน้อยตอนนี้เราสามารถมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง และต่อไปเราจะบริหารมันยังไง เราสามารถเก็บเงินแล้วไปต่างประเทศอย่างที่ใจหวังได้หรือไม่ ยังไงก็ติดตามต่อไปก่อนที่ตัวเองจะอายุ 30 จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีก ขอหยิบคำถามจากในเพจ The Matter มาล

จะก้าวข้ามผ่านไปได้หรือไม่

รูปภาพ
หลังจากเรียนเมื่อเดือนเมษาที่ผาสนมาได้ไม่นาน ผมก็เข้าสู้จุดวังวนเดิมๆอีกครั้ง การเล่นเกมเป็นเหมือนที่พึ่งให้ผมเสมอ เป็นที่ๆผมยังมีตัวตน แต่ภายหลังหน้าจอนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรดีเลย ไม่มีประโยชน์ ผมอยากจะหลุดพ้นในจุดๆนี้ ผมเริ่มหาที่ทำงาน ไปสมัครงาน ไปสัมภาษณ์งาน และบ่นๆลงใน twitter หลายครั้ง จนการสัมภาษณ์งานครั้งแรกผมผ่านไป ผมไม่ผ่านเลยไม่ได้งาน แต่พี่ที่สำนักจัดหางานบอกกับผมว่าชื่อน้องยังอยู่ในระบบนะ จะเมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมา มีโทรศัพท์มาหาผมถึง 2 สาย เป็นการเรียกไปลงทะเบียนสมัครงาน และอีกสายคือเรียกไปทดลองงาน ผมเลยเลือกที่่จะไปทดลองงาน จนวันๆนี้สิ้นสุดลง ผมไปทดลองงานมา ครึ่งวัน พอทรายถึงหน้าที่ของตนเองว่าต้องทำอย่างไร มีการสอนงานกับผม จนสุดท้ายมันจบลง ไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร ผมจะยอมรับมันในวันพรุ่งนี้ ถ้าผมได้ผม กลัว ผมเริ่มเกิดความกลัวขึ้นมาในใจ เราจะทำได้ดีไหม เหมือนเราแบกความรับผิดชอบ ซึ่งพี่ HR ไม่ได้ให้ผมคิดแบบนั้น แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี ถามว่าอยากได้ไหม งาน ตอบจากใจว่าผมอยากจะได้มันมากที่สุด แต่ในใจผมกลัว กลัวมาก กลัวความผิดพลาดจะเกิดขึ้น