จากเมษา ถึง มิถุนา




เมษา


ช่วงเดือนเมษาที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไป อบรมค่ายหมอเขียวที่จังหวัดมุกดาหาร ประมาณ สี่วัน

เพราะแม่เราชวนไป ไปกัน พ่อ แม่ เรา และ ลุงๆป้าๆเพื่อนของพ่อแม่ อีกสองคน ได้แวะไปหา ตา กับยาย ที่สกลนครด้วยเพราะเราไม่ได้ไปหาท่านนานมากแล้ว หก เจ็ดปี หรือมากกว่านั้นแล้วเราจำไม่ได้เหมือนกัน

และเป็นช่วงหลังสงกรานต์แล้วด้วยจะได้ไป รดน้ำดำหัวท่านด้วย

ทุกอย่างเปลี่ยนไปบ้านเมืองเอย รวมถึงตัวเราเองก็เปลี่ยน บ้านก็เปลี่ยน เป็นอีกครั้งแรกในปีนี้ที่เราได้ออกไปต่างจังหวัด ไปเที่ยวไกลบ้าน กับครอบครัว ไปเที่ยว มุกดาหาร นครพนม อุดรธานี และไปนอนบ้าน ตากับยายหนึ่งคืน

มุกดาหารได้แวะหอแก้ว ตลาดอินโดจีน นครพนมก็เราเกิดปีวอกเป็นพระธาตุประจำปีเกิดเราพอดี ไปไหว้ขอพรและไม่ลืมถ่ายรูปไว้ไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกครั้งเมิื่อไหร่ ถึงอากาศจะร้อนแต่เรายินดีที่จะเดินเองด้วยขาของเราและไม้วอลกเกอร ด้วยตัวของเราเอง ความเจ็บความปวดมันแทบจะหายไปหมด มันมีความสุขมากที่สุด เราอยากออกไปต่างจังหวัดแบบนี้มานานแล้ว


ซึ่งมันแตกต่างจากหลายปีก่อนเราอาย เราแคร์สายตาคนที่ที่เขามองเรา เราอายที่จะนั่งรถเข็น เหมือนเราจะปิดกั้นตัวเองอยู่แต่ในบ้านอยู่กับคอมมานานหลายปี แต่ตอนนี้ เราออกไปเจอคนหล่ยคนได้เห็นอะไรมากขึ้นเราไม่แคร์ ใครจะมองจะถามอะไรก็ตาม เราก็แค่ยิ้มให้แล้วเดินต่อไป ก็เท่านั้นเอง


การเดินทางออกต่างจังหวัดสำหรับคนพิการเรื่องเดินทางคงไม่มีปัญหาอะไรมากแต่ลำบากหน่อยตรงที่จะเข้าห้องน้ำนี่แหละ ยิ่งเป็นต่างจังหวัดที่ยังมีส้วมแบบนั่งยองไม่มีชักโครก บางปั๊มมีชักโครกแต่เสียบ้าง มีชักโครกเหมือนกันแต่ไม่มีฝารองนั่ง หรือบางทีอยู่ต่ำเกินไป ทำให้ลุกนั่งลำบาก มันไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่


พูดถึงค่ายหมอเขียว เราไปอบรม จริงทั้งหมดมี เจ็ดวัน พอวันที่สี่เราทนไม่ไหวมันทรมานสำหรับเราเหลือเกิน เพราะเรื่องอาหารการกินนี่แหละทรมานมากกินเท่าไหร่ก็ไม่มีความสุข อาหารเป็นอาหารแบบจืดมากกกกกกกก ปรุงด้วย เกลือเท่านั้น เป็นข้าวต้ม ผักต้มแบบจืดๆ พร้อมผักสด ผลไม้ตามสูตรของเขาเป็นอาหารล้างพิษ


ชา กาแฟ น้ำอัดลมงดหมด แต่ช่วงเช้าๆแอบเห็นคนในค่ายชงกาแฟกินกันกิเลสมากใครทำได้ก็ส่งผลดี ส่วนผมทำไม่ได้นะมันทรมานเหลือเกินแต่ก็ได้ความรู้มาได้หนังสือมาไปแค่ให้รู้ก็พอ ไม่มีอะไรมาก


พฤษภา



เดือนนี้เหมือนตัวเราจะทรุดหนักลงไม่รู้เพราะอะไร นอนเกือบทั้งเดือนเพราะปวดข้อมาก และต้องทำงานด้วย เราเริ่มรับงานโพสข่าวลงเว็บบอรดทุกวันได้ประมาณเดือนละสองพัน เพราะอยากหาเงินมาใช้เองบ้างอยากรู้ว่าการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง เราเริ่มทำตั้งแต่เดือนมกราคม เป็นต้นมา ทำทุกวัน เราเริ่มรู้เลยว่าการได้เงินมาแต่ละบามนี่มีนยากมากๆ


ได้เงินมาเราเอาไปซื้อของโดยไม่ทันยั้งคิดไปรอบนึงใจหายมากๆเราอุตสาห์หามากว่าจะได้แต่ละเดือนจ่ายแปปเดียวหายไปต่อหน้าต่อตา รู้ซึ้งจริงๆแล้วหละทีนี้


ช่วงนี้เราได้ยื่นใบสมัครเรียน กศน ไว้เพราะตั้งใจว่าปีนี้จะเรียนให้จบ ม หกให้ได้ ได้กลับไปยังโรงเรียนเก่าอีกครั้งทุกอย่าวเปลี่ยนไป ไม่อยากเชื่อตัวเองจบมาจากที่นี่แล้ว ตั้ง ห้าปี เราเรียนที่นี่ครั้งสุดท้ายคือชั้น ม ห้า หลังจาห ออก โรงพยาบาลเมื่อหลายปีก่อน เราไป แก้ ศูนย์ แก้ ร ส่งงานจนจบ ม ห้า และเขียนหนังสือลาออกจากโรงเรียน และการสมัครเรียน กศน ในครั้งนี้เราต้องใช้ใบเกรดด้วย


มิถุนายน


ก็ผ่านไปแล้วครึ่งปีพอดีเวลาเร็วเสมอ เราทำงานได้ หกเดือนพอดี สุขภาพร่างกายของเรา เริ่มดีขึ้นหลังจากเดือน พฤษภาเราทรุดทั้งเดือน และอาทิตย์แรกของเดือนตาข้างขวาของเราก็มีอาการม่านตาอักเสบเกิดขึ้น ทำให้มองไม่เห็นมันขาวมัวไปหมด ไปหาหมอบอกว่า ม่านตาอักเสบมีหนอง เลยโดนฉีดยาไปสี่เข็ม วันแรกสองเข็ม อีกวันสองเข็ม โดนค่ายา พันห้าเกือบทุกอาทิตย์


ก็ต้องยอทเสียเพราะตาสำคัญมากถ้าเสียมันไปขีวิตคงไม่เหลืออะไรแล้วต้องรีบรักษาให้ทัน


เดือนนี้เราทำอะไรด้วยตนเองได้อีกครั้ง ลุกจากเตียงเอง หาอะไรกินเอง ใส่เสื้อผ้าเอง อาบน้ำด้วยตัวเอง


หลังจากที่หมอตานัดและกำลังเดินทางจะกลับบ้านเราขอแม่เราแวะเซเว่นเราอยากเข้ามานานมากแล้วจพไม่ได้ว่าเข้าไปเดินเลือกซื้อขนมที่เซเว่นด้วยตัวเองครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่อาจมากกว่าปีก็ได้หร้อนานกว่านั้น ดีใจมาก ที่เเดินได้ด้วยขาตัวเองแม้จะใช้ไม้ ก็ยังดีกว่าทำอะไรไม่ได้เลย


และเรากำลังเก็บตังด้วยตัวเองซื้อมือถือเครื่องใหม่เงินที่เราอดทนอดกลั้นไม่จ่ายมันไปในทุกๆเดือน ที่เราทำงานด้วยตัวเราเอง น่าจะเป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่เราทำแบบนี้


ส่วนหมอโรคข้อตั้งแต่มกรามาก็นัดเราไปตรวจทุกเดือนก็ต้องรักษากันต่อไป

สุดท้ายนี้หวังว่าอาการของตัวเราเองถ้่คงที่แบบนี้ก็คงจะดี และ ณตอนที่พิมพ์ตอนนี้ตาก็ยังไม่ดีเท่าที่ควรหมอก็ยังนัดต่อไปอีก และไกล้เวลาที่เราจะเก็บเงินได้ครบตรมที่เราต้องการไว้แล้ว


อยากให้ตัวเองดีขึ้น และตอนนี้น้ำหนักก็ขึ้นมาแล้วและแม่ก็สังเกตุว่าขาเราเริ่มแน่นมีกล้ามเนื้อขึ้นมาเพราะเราเดินบ่อยๆเป็นสัญญานที่ ตอนหมอโรคข้อนัดตรวจหมอก็บอกว่าเราอ้วนขึ้น ทุกวันนี้เราปลุกนาฬิกามือถือหกโมงทุกวันตื่นมาเผิดคอทและนั้่งดูข่าวจะน่าเบื่อตอนเสารอาทิตย์เพราะมีแต่การตูน


นี่น่าจะเป็นบล็อกที่ยาวที่สุดที่เราเคยเขียนมา

ขอบคุณอะไรหลายๆอย่างที่เข้ามาทำให้เราเติบโตขึ้น แข็งแรงขึ้น

ขอบคุณเรื่องร้ายๆที่ผ่านเข้ามาใจเราจะได้มีภูมิคุ้มกัน

ขอบคุณ ท่านที่หลงเข้ามาอ่านถึงจุดๆนี้


เราได้เขียนบันทึกวันวันใดวันหนึ่งเราจะได้กลับมาอ่านอีกครั้ง...

ความคิดเห็น