จะก้าวข้ามผ่านไปได้หรือไม่

หลังจากเรียนเมื่อเดือนเมษาที่ผาสนมาได้ไม่นาน ผมก็เข้าสู้จุดวังวนเดิมๆอีกครั้ง

การเล่นเกมเป็นเหมือนที่พึ่งให้ผมเสมอ เป็นที่ๆผมยังมีตัวตน

แต่ภายหลังหน้าจอนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรดีเลย ไม่มีประโยชน์

ผมอยากจะหลุดพ้นในจุดๆนี้ ผมเริ่มหาที่ทำงาน ไปสมัครงาน ไปสัมภาษณ์งาน

และบ่นๆลงใน twitter หลายครั้ง จนการสัมภาษณ์งานครั้งแรกผมผ่านไป

ผมไม่ผ่านเลยไม่ได้งาน แต่พี่ที่สำนักจัดหางานบอกกับผมว่าชื่อน้องยังอยู่ในระบบนะ

จะเมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมา มีโทรศัพท์มาหาผมถึง 2 สาย เป็นการเรียกไปลงทะเบียนสมัครงาน

และอีกสายคือเรียกไปทดลองงาน ผมเลยเลือกที่่จะไปทดลองงาน

จนวันๆนี้สิ้นสุดลง ผมไปทดลองงานมา ครึ่งวัน พอทรายถึงหน้าที่ของตนเองว่าต้องทำอย่างไร

มีการสอนงานกับผม จนสุดท้ายมันจบลง

ไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร ผมจะยอมรับมันในวันพรุ่งนี้

ถ้าผมได้ผม กลัว ผมเริ่มเกิดความกลัวขึ้นมาในใจ

เราจะทำได้ดีไหม เหมือนเราแบกความรับผิดชอบ ซึ่งพี่ HR ไม่ได้ให้ผมคิดแบบนั้น

แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี ถามว่าอยากได้ไหม งาน ตอบจากใจว่าผมอยากจะได้มันมากที่สุด

แต่ในใจผมกลัว กลัวมาก กลัวความผิดพลาดจะเกิดขึ้น ตั้งแต่มันยังไม่เกิด

ผมจะทำได้ดีพอหรือไม่ ศักยภาพผมจะดีหรือไม่ จะคุ้มค่าไหม

คนในองค์กร จะโอเคกับผมไหมถ้าผมทำได้ไม่ดีพอ เป็นสิ่งที่ผมคิดล่วงหน้าไว้ และเกิดความกลัวขึ้นมา

ผมควรจะก้าวออกมาไหม ไม่มีคำตอบ ไม่มีคำตอบอะไรเลยจากตัวผม

แต่เพื่ออนาคต ผมก็ควรจะทำไม่ใช่แค่คำว่าเงิน แค่ผมควรจะมีอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันมั๊ย ก่อนอายุ 30

ผมไม่อยากจะอยู่แบบนี้ ขอเงินพ่อแม่อบบนี้ อยู่กับจอคอมแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ผมไม่อยากจะเป็นแบบนี้ ผมบอกกับตัวเองว่าเราควรจะมีเป้าหมายในชีวิตบ้าง

ยังมีหลายที่ที่อยากไป ผมไม่อยากอยู่กับเบี้ยคนพิการรายเดือนแบบนี้ไปตลอด

ผมต้องกล่าวผ่านไปให้ได้ ก้าวผ่านความกลัว ก้าวผ่านความขี้เกียจ

ผมต้องทำให้ได้ ไม่มีงานใดที่ง่าย และไม่มีงานใดที่ยากเกินคงามสามารถเรา


ความคิดเห็น